Skip to content

แม่ปุ๊กลุก เสียชีวิตแล้ว หลังอาการทรุดหนัก

แม่ปุ๊กลุกล้มหัวฟาดฟื้น อาการโคม่าหุยดหายใจกว่า 10 นาที

กระแสดราม่าแรงจากนางเอกสาวปุ๊กลุก ฝนทิพย์ หลังโดนกระแสตีกลับขึ้นเทรนทวิตเตอร์ และกำลังเป็นที่พูดถึงและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก หลังจากที่ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวของคุณแม่ที่เกิดอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นในช่วงกลางคืนและมีเลือดออกเป็นจำนวนมากจนต้องนำส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน โดยเธอได้ออกมาโพสต์เรื่องราวไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี

ปุ๊กลุก ฝนทิพย์

ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล

เมื่อคืนวันที่ 21 พฤษภาคม นางเอกสาวปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความลงบน Instagram ส่วนตัว เผยเหตุการณ์คุณแม่ล้มศีรษะฟาดพื้นหยุดหายใจไปนานกว่า 10 นาที แต่เมื่อนำคุณแม่เข้าส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลก็เกิดความไม่พอใจกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นอย่างยิ่งโดยได้มีการโพสต์ระบุข้อความว่า

“เมื่อคืนตอนเที่ยงคืนคุณแม่ล้มหัวฟาดพื้นสลบไม่รู้ตัวเลยรีบพามาส่งที่โรงพยาบาล คุณแม่หยุดหายใจไป 10 นาทีแต่คุณหมอช่วยปั๊มและฉีดยาคุณแม่กลับมาหายใจได้แต่ยังอยู่ในอาการโคม่า แต่เรื่องที่ทำให้เจ็บช้ำหัวใจที่สุดคือตอนที่คุณแม่ล้ม ภาพที่เห็นคือเลือดกองเต็มพื้นขณะที่กำลังเคลื่อนย้ายแม่ก็เห็นว่าคุณแม่เริ่มปากสีม่วงแล้ว เลยตัดสินใจอุ้มคุณแม่ขึ้นรถโดยที่สาวเป็นคนขับและตัวปุ๊กลุกนั่งประคองคุณแม่ โดยระหว่างเดินทางได้มีการโทรศัพท์หาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ใกล้บ้านในย่านจังหวัดนนทบุรี ว่ารบกวนส่งรถพยาบาลมารับได้ไหม หากสวนกันจะได้รับคุณแม่ขึ้นรถที่มีอุปกรณ์สามารถช่วยชีวิตได้ทันเวลาเพราะคุณแม่ดูอาการแย่มาก

โดยทางเจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์ได้มีการแจ้งว่าไม่มีรถฉุกเฉิน เลยแจ้งทางโรงพยาบาลให้เตรียมเตรียมและทีมงานให้พร้อมเพราะตอนนี้คุณแม่หมดสติ ปากม่วงและมีเลือดออกเยอะมากไม่รู้ว่าหยุดหายใจหรือยัง ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 10 ถึง 15 นาที แต่เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาลสิ่งที่พบคือไม่พบพนักงานคนไหนอยู่บริเวณส่วนฉุกเฉินเลยสักคน จึงได้มีการบีบแตรรถเรียกประมาณเกือบ 30 วินาที ซึ่งนานมาก ๆ สำหรับคนไข้ที่เราโทรบอกแล้วว่ามีโอกาสเสียชีวิตเพราะหมดสติ

เมื่อเจ้าหน้าที่ออกมาก็เดินทางออกมาแบบไม่ได้กระตือรือร้น ไม่มีเตียงสแตนบายกว่าจะไปเขียนเตียงออกมา ซึ่งความรวดเร็วไม่ควรค่ากับสิ่งที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่าแม่เสี่ยงกับการเสียชีวิต แถมบอกให้ถอยรถอยู่นั่น และมีท่าทีไม่กระตือรือร้นทำท่าเหมือนจะยกคุณแม่ไม่ได้สักที ซึ่งมีพนักงานน้อยมากค่อย ๆ เดินกันออกมาทีละคน ภาพหลังจากแม่เข้าห้องฉุกเฉินแล้วคือเกิดการปั๊มหัวใจแม่แล้ว แม่หมดลมหายใจแล้ว ไม่มีชีพจรแล้ว โมโหมากๆ จึงถามพนักงานที่รับโทรศัพท์ว่าโทรมาเมื่อ 15 นาทีที่แล้วทำไมไม่มีการเตรียมเตียง ไม่มีการเตรียมบุคลากร ไม่มาสแตนบาย ทำอย่างกับโรงพยาบาลร้าง บีบแตรเกือบ 30 วิกว่าแต่ละคนจะออกมา โทรบอกแล้วว่าคนไข้อาการโคม่า ปากม่วงและเลือดไหลไม่หยุด ไม่รู้เสียชีวิตหรือยังแต่สิ่งที่คุณเตรียมพร้อมให้กับเราเป็นแบบนี้หรอ มีห้องฉุกเฉินไว้ทำไมถ้าไม่มีอะไรพร้อมเลย พร้อมโพสข้อความเพิ่มเติมว่าตอนนี้ได้ย้ายคุณแม่มาอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพื่อทำการรักษาต่อ แต่ก่อนนี้คุณแม่หมดลมหายใจไปแล้ว แต่ก็ได้อธิษฐานขอ ชีวิตคืนให้แก่แม่ในความเชื่อของปุ๊กลุก และมั่นใจว่าพระเจ้าจะช่วยให้แม่กลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้แม่กลับมาหายใจได้พระเจ้าช่างยิ่งใหญ่จริงๆ โดยคุณหมอแจ้งว่าอาการคุณแม่ตอนนี้แย่มากๆ เส้นเลือดใหญ่แตกและกะโหลกร้าว”

หลังจากที่เธอโพสต์ข้อความดังกล่าวลงในโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องราวและอาการแม่ของเธอ จากที่ชาวเน็ตจะเห็นใจกลายเป็นว่าเธอถูกกระแสตีกลับในทวิตเตอร์อย่างรุนแรง จนทำให้ชื่อของเธอนั้นติดเทรนด์ทวิตเตอร์

คำวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายว่าในกรณีที่ผู้ป่วยล้มหัวฟาดพื้นไม่ควรมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเอง เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหนักมากยิ่งขึ้น หรือ แนะนำให้โทรติดต่อ 1669 ไม่ใช่ดำเนินการต่างๆ ด้วยตัวเอง เพราะในบางครั้งอาจจะทำให้คุณแม่เสียชีวิตได้เร็วมากยิ่งขึ้น, ไปจนถึงการใช้สิทธิ์ของดาราในการใช้พรีวิลเลจของตัวเองในการเข้ารักษาพยาบาล, สถานการณ์ของโรงพยาบาลทั่วประเทศในปัจจุบันที่ บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลต้องรักษาทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ไปจนถึงการ วิพากษ์วิจารณ์ว่าคนที่คุณควรขอบคุณควรจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่ขอบคุณพระเจ้า เพราะคนที่ช่วยปั๊มหัวใจแม่ของคุณให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งคือบุคลากรทางการแพทย์ ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์อีกหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ตีกลับถึงสาวปุ๊กลุกในกรณีที่มีการต่อว่าและตำหนิบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล รวมถึงมีชาวเน็ตหลายคนที่เรียกร้องให้โรงพยาบาลแรกที่ทำการรักษาแม่ของสาวปุ๊กลุกรวมถึงถูกพาดพิงและถูกต่อว่าให้ทำการฟ้องกลับสาวปุ๊กลุก ฝนทิพย์

โดยจากกระแสดังกล่าวทางโรงพยาบาลที่ถูกพาดพิงถึงยืนยันว่าจะไม่ฟ้องปุ๊กลุก ฝนทิพย์แต่จะขอชี้แจงความเป็นจริงอีกด้าน

กรณีที่ 1 สำหรับเรื่องรถพยาบาลที่ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ขอให้แวะรับกลางทางเผื่อสวนกัน โรงพยาบาลชี้แจงว่าทางโรงพยาบาลรับผู้ป่วยทั้งเคสทั่วไปและเคสโควิด ซึ่งรถพยาบาลจะไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ และในคืนที่เกิดเหตุนั้นก็มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเข้ามาในโรงพยาบาลเยอะมากๆ ไม่ได้มีแค่เคสคุณแม่ของคุณปุ๊กลุกแค่อย่างเดียว

กรณีที่ 2 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากรถ เนื่องจากทราบว่าผู้ป่วยล้มศีรษะกระแทกจึงต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องของการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะในส่วนของศีรษะและกระดูกสันหลังเพราะหากเคลื่อนย้ายไม่ถูกต้องอาจสร้างความบาดเจ็บเพิ่มเติมให้ผู้ป่วย

กรณีที่ 3 แพทย์และพยาบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าได้ทำการปั๊มหัวใจกู้ชีพอย่างดีที่สุดรวดเร็วที่สุด จนกระทั่งสามารถช่วยชีวิตของคุณแม่คุณปุ๊กลุกได้สำเร็จ

กรณีที่ 4 หน่วยแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าเวรในคืนดังกล่าว ได้พบเห็นข้อความที่คุณปุ๊กลุกโพสต์ทุกคนรู้สึกเสียใจและหมดกำลังใจในการทำงาน เนื่องจากในสภาวะปัจจุบันเช่นนี้ทุกคนต้องทำงานหนักกันมากยิ่งขึ้นและอยู่เวรกันมาตลอดทั้งวันแล้ว แต่ก็ไม่มีใครติดใจเอาความอะไรเพราะเข้าใจความรู้สึกของญาติผู้ป่วยว่าหนึ่งนาทีของเรากับหนึ่งนาทีของเขามันไม่เท่ากัน

ในกรณีที่ 5 เรื่องการฟ้องร้องทางโรงพยาบาลยืนยันว่าจะไม่ฟ้องปุ๊กลุก ฝนทิพย์ เพราะภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยนั้นสำคัญกว่า โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ของการระบาด covid ที่หนักเช่นนี้ แต่ได้มีการตามหาคลิปที่มีคนอ้างว่าปุ๊กลุกมีการไลฟ์จากในห้องฉุกเฉินจริง เพื่อตรวจสอบว่ามีการไหลจริงหรือไม่เนื่องจากเป็นการผิดกฎของโรงพยาบาลและละเมิดสิทธิ์ผู้ป่วยท่านอื่นที่อาจถ่ายติดไปด้วย

ซึ่งขณะนี้อาการปัจจุบันของคุณแม่ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ นั้นก็ได้มีการผ่าตัดสมองเนื่องจากเกิดอาการสมองบวม อาการยังคงทรงตัวและมีแนวโน้มที่อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจให้แม่ของคุณปุ๊กลุกฝนทิพย์หายจากอาการป่วยโดยเร็ว วิธี สมัครบาคาร่า 888

อ่านเพิ่มเติม