Skip to content

หนุ่ม ศรรามซัดเดือด ภรรยาเก่าทำลูกพัฒนาการช้า

หนุ่ม ศรรามยืนยันได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว

กลายเป็นประเด็นสุดร้อนแรงอีกครั้งเมื่อ กุ้งพลอย – กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกมาไลฟ์สดแฉ หนุ่ม – ศรราม เทพพิทักษ์ อดีตสามียาวนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยอ้างว่าหนุ่มไม่ยอมให้เจอลูกสาว น้องวิจิ พร้อมกับทวงคืนลูกจากอดีตสามี พร้อมจวกยับว่าสามีไม่มีเวลาเลี้ยงลูก! ทำให้ลูกพัฒนาการช้ากว่าปกติ

มิหนำซ้ำยังย้ำกับชาวเน็ตอีกว่าต่อจากนี้จะไม่มี ‘ติ๊ก’ ทุกวันนี้มีเพียงแค่ ‘กุ้งพลอย’ ที่จะออกมาฟาดแต่ความจริงเท่านั้น โดยหลังจากที่เธอออกมาไลฟ์สด ชาวเน็ตผู้หวังดีทั้งหลายก็พารถทัวร์มาลงจอดพร้อมด้วยความคิดเห็นจำนวนมาก โดยคอนเม้นต์ส่วนใหญ่ก็จะเอนเอียงไปในเชิงลบเสียมากกว่า ภายในการไลฟ์สดกุ้งพลอย ได้ร้องห่มร้องไห้ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นต่าง ๆ นานา ทั้งยังถามความเห็นของสังคมว่าจะให้คนติดเหล้าเลี้ยงลูกจริงเหรอ? พร้อมท้าให้หนุ่มเลิกเหล้า เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าใครจะทำเพื่อลูกได้มากกว่ากัน

โดนแฉยับขนาดนี้ทางด้านหนุ่ม ศรรามก็ไม่รีรอ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางเพจชื่อดังเพจหนึ่ง เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมซัดกลับทุกข้อกล่าวหากันแบบจุก ๆ งานนี้บอกเลยว่าหมัดชนหมัดไม่มีใครยอมใครจริง ๆ ล่ะค่ะ

ซึ่งประเด็นแรกเกี่ยวกับการพัฒนาการของลูกสาว ‘น้องวิจิ’ ว่าลูกไม่ได้มีปัญหาด้านการพัฒนาการแต่อย่างใด ที่ผ่านมาตัวหนุ่มเองก็ได้มีการไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธพร้อมกับติ๊กด้วยซ้ำ ซึ่งกรณีนี้คุณหมอก็ได้มีการแนะนำให้ฝึกทักษะเพิ่มเติมในเรื่องของการพูดให้เป็นคำมากขึ้น และจะมีนัดอีกทีในช่วงวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่จะถึงนี้ และหลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอหนุ่มเองก็กลับมาทำตามที่หมอแนะนำทุกประการ ที่สำคัญตัววิจิก็มีพัฒนาการในเรื่องของร่างกายและภาษากาย ไม่ว่าจะเป็น กิฟมีไฟว์ หรือการแสดงออกทางภาษากายก็ดีมาก ๆ แค่ต้องปรับในเรื่องของการพูดเท่านั้น

และประเด็นต่อมาที่ทำเอาเหล่าชาวเน็ตงงงวยมากที่สุด คือการที่หนุ่มไม่ให้เจอลูกและให้เวลาเจอลูกน้อยเกินไป เรื่องนี้หนุ่มได้ชี้แจงว่าเบื้องต้นได้มีการพูดคุยว่าจะให้ติ๊กมาพบลูกเดือนละสองครั้ง แต่ละครั้งที่เจอก็มักจะมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นจากฝั่งของติ๊ก ทั้งในเรื่องของการร้องเรียนมูลนิธิ หรือการให้ไปเจอกับทางหน่วยงานของรัฐ แล้วท้ายที่สุดติ๊กก็เป็นฝ่ายไม่พึงพอใจเอง ซึ่งหลังจากนั้นหนุ่มก็ได้มีการพิจารณาตามความเหมาะสม และได้ขยายเวลาในการพบลูกเป็นเดือนละ 4 ครั้ง เท่ากับว่าติ๊กจะได้เจอลูกอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยมีการนัดหมายเจอกันทุกวันเสาร์ แต่หากวันเสาร์ของสัปดาห์ไหนติดธุระก็จะพยายามเลื่อนไปเจอวันอื่น แต่อย่างน้อย ๆ ก็ต้องได้เจอกัน ซึ่งเรื่องนี้ทั้งตัวหนุ่ม ติ๊ก และที่ปรึกษาด้านกฎหมายก็รับทราบโดยทั่วกัน

ในการพบลูกแต่ละครั้งจะนัดเจอกันที่ร้านอาหารที่ไปทานกันเป็นประจำ ซึ่งหลังจากที่ร้านอาหารอยู่ในช่วงปรับปรุง หนุ่มจึงขออนุญาตย้ายที่นัดหมายไปที่คอนโดส่วนตัวแทนเพื่อความสะดวกสบาย (เรื่องนี้ที่ปรึกษาด้านกฎหมายรับทราบ) ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็เป็นการนัดเจอกันที่คอนโดครั้งแรก ในวันที่พาวิจิไปหาหมอพร้อมกัน เมื่อหาหมอเสร็จติ๊กก็ขอพาลูกไปเที่ยวห้างหนุ่มก็อนุญาตให้ไป แต่ในวันนั้นติ๊กกลับโทรไปยืมสตางค์เพื่อนจนเพื่อนคนนั้นก็โทรไปทวงตังค์กับหนุ่ม หนุ่มก็ต้องยอมจ่ายให้เขาไป

นอกจากนี้ยังมีประเด็นหนึ่งที่ทางหนุ่มพาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด ทำให้ติ๊กไม่สามารถเจอลูกได้ ติ๊กโกรธมากในเรื่องนี้ จึงโทรบอกหนุ่มว่าขอยกลูกให้ ติ๊กไม่ต้องการลูกแล้ว ยกให้ตั้งแต่ในช่วงวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยกรณีนี้ก็เท่ากับว่าในใบหย่า บันทึกหลังใบหย่าก็ระบุไว้หมดแล้วว่าหนุ่มมีสิทธิ์ดูแลลูกแต่เพียงผู้เดียว ฉะนั้นหนุ่มก็จะทำตามความประสงค์ของติ๊กตั้งแต่วันนั้น พร้อมยืนยันว่าจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด และจะไม่มีการยกลูกคืนให้กับติ๊กแต่อย่างใด บาคาร่า 1688

อ่านเพิ่มเติม :